Tiny House Movement: กระแสนิยมบ้านเล็กกะทัดรัด

       สวัสดีครับคุณผู้ฟังทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ โลกกว้างกับภาษาอังกฤษครับ รายการออกอากาศเป็นประจำทุกวันจันทร์และวันพุธเวลา 8.00-8.30 น. ทางคลื่นวิทยุ F.M.107.25 เมกกะเฮิร์ต สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวรครับ วันนี้ผม มานะ เติมใจ อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รับหน้าที่ดำเนินรายการครับ
       คุณผู้ฟังทุกท่านครับวันรี้ผมมีเรื่องเกี่ยวกับ Tiny House Movement หรือว่ากระแสนิยมบ้านเล็กกะทัดรัดนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับคุณผู้ฟังทุกท่านนะครับ สำหรับบ้านแล้วบ้านก็คือที่ที่เราส่วนใหญ่ใช้เวลาในการดำเนินชีวิตประจำวันนะครับ นอกเหนือจากที่โรงเรียน นอกเหนือจากที่ทำงาน นอกเหนือจากการเดินทางหรือว่าการท่องเที่ยวต่างๆ แล้วเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บ้าน ปัจจุบันนะครับบ้านก็มีความแตกต่างหลากหลายรูปแบบนะครับก็ขึ้นอยู่กับว่าความชอบ ความสนใจ หรือว่าแนวคิด life style อุดมการณ์ของเจ้าของบ้านหรือว่าผู้อยู่อาศัยนะครับ บางคนก็อาจจะชอบอยู่ในบ้านหลังใหญ่ บางคนอาจจะชอบอยู่ในบ้านหลังเล็กนะครับ บางคนอาจจะอยากอยู่ในเมือง บางคนชอบอยู่ในที่ที่เป็นธรรมชาติ ครับด้วยความแตกต่างหลากหลายที่ว่ามานี้นะครับก็เลยทำให้มีการเลือกที่อยู่อาศัยที่มีความหลากหลายไปด้วยเช่นเดียวกันนะครับ แล้วก็หนึ่งในทางเลือกที่อยู่อาศัยนะครับที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นมากขค้นเรื่อย ๆในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมานี้นะครับ นั่นก็คือการอยู่อาศัยในบ้านที่เรียกว่า tiny house tiny house หรือว่าในภาษาไทยก็คือบ้านเล็กกะทัดรัดนะครับ ในที่นี้นะครับผมจะมาพูดคุยว่า tiny house คืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยมในการเป็นที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ
       ก่อนอื่นเลยครับมาดูคำนิยามของคำว่า tiny house กันก่อนเลยครับ tiny house คืออะไร คำว่า tiny house นะครับเป็นคำในภาษาอังกฤษนะครับที่มาจากคำสองคำ คำแรกก็คือคำว่า tiny, tiny แปลว่าเล็กมากหรือว่าเล็กจิ๋วนะครับ แล้วอีกคำหนึ่งก็คือคำว่า house, house ก็แปลว่าบ้านนะครับ เมื่อเรานำคำสองคำนี้มารวมกันนะครับ tiny house ก็จะแปลว่าบ้านหลังเล็กกะทัดรัด ซึ่งคำว่าเล็กกะทัดรัดก็คือหมายถึงว่ามีขนาดเล็กมากกว่าบ้านตามขนาดมาตรฐานโดยทั่วไปครับ ขอเสริมคำนิยามคำว่า tiny house อีกนิดนึงครับว่ามีความแตกต่างจากคำว่า small house อย่างไรนะครับ คำว่า small house small แปลว่าเล็กนะครับ small house คือบ้านหลังเล็ก แล้วส่วนคำว่า tiny house ตรงนี้หมายถึงว่าบ้านหลังเล็กจิ๋วนะครับ แสดงว่าคำว่า tiny มีขนาดเล็กกว่าคำว่า small นะครับเพราะฉะนั้นก็คือ small house ก็คือบ้านหลังเล็กแล้วนะครับแต่ tiny house ก็คือเล็กยิ่งกว่าเล็กซะอีกนั่นก็คือบ้านเล็กจิ๋วนะครับ สำหรับคำนิยามของคำว่า tiny house อาจจะไม่แน่ชัด อาจจะไม่ฟิกซ์ตายตัวว่า tiny house ต้องเล็กแค่ไหนถึงจะเรียกว่าขนาดเล็กนะครับ แต่ว่าคำว่า tiny house บ้าน tiny house โดยทั่ว ๆ ไปก็คือจะเป็นหมายถึงบ้านที่มีขนาดพื้นที่อาจจะประมาณ 20-30 ตารางเมตรนะครับ ซึ่งถ้าเกิดว่าคุณผู้ฟังนึกภาพตามนะครับ 20-30 ตารางเมตรนี่คือประมาณเท่าไหร่ ก็อาจจะประมาณห้องพักของโรงแรมขนาดกลางหรือขนาดโดยทั่ว ๆ ไปนะครับ ก็คืออยู่ที่ประมาณ 20-30 ตารางเมตร แต่ขนาดตรงนี้ไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวนะครับ บางคนอาจจะเล็กกว่านี้ก็ได้ บ้านบางคนอาจจะใหญ่กว่านี้ก็ได้นะครับ แล้วก็ถึงแม้จะเป็นพื้นที่ขนาดเล็กก็ตามนะครับแต่ว่ามีการใช้พื้นที่ใช้สอยอย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือพื้นที่ขนาดเล็กแต่ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ใช้อย่างเต็มที่ของขนาดพื้นที่เลยนะครับ แล้วก็ที่สำคัญครับบ้านแบบ tiny house เขาจะมีสไตล์ที่แบบเน้นความเรียบง่ายแล้วก็เน้นความแนวคิดที่เรียกว่า minimalism, minimalism หรือว่าน้อยแต่มากนะครับ หรือคำว่าน้อยแต่มากนี้หมายถึงอะไรนะครับ หมายถึงทั้งพื้นที่ แล้วก็หมายถึงทั้งข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านนะครับก็จะมีน้อยแต่ว่ามีเฉพาะที่จำเป็นแล้วก็มีความหมายต่อการดำเนินชีวิตนะครับ เขาก็จะเอาเฉพาะสิ่งที่มีคุณค่าในการดำเนินชีวิตของเจ้าของบ้านหรือผู้อยู่อาศัยเท่านั้นครับ อะไรที่ไม่จำเป็นก็จะไม่นำเข้ามาเพราะว่าพื้นที่มีจำกัดมากๆด้วยนะครับ ถ้าพูดถึงห้องหลักๆ ภายในบ้าน tiny house แล้วนะครับ หลักๆหรือว่าฟอร์นิเจอร์รวมไปถึงห้องนะครับก็จะมีเฉพาะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นนะครับ เปิดประตูบ้านเข้ามาอาจจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ในห้องนั่งเล่นก็อาจจะมีห้องทำงานด้วย ผนวกรวมเข้าไปอยู่ด้วยกันไปเลยนะครับ ถัดจากห้องงนั่งเล่นก็อาจจะเป็นห้องครัว ห้องครัวเสร็จแล้วก็อาจจะเป็นห้องน้ำนะครับ แล้วก็ห้องนอน ห้องนอนก็อาจจะอยู่ในพื้นที่ชั้นเดียวกันก็ได้หรือว่าบางคนนะครับด้วยขนาดพื้นที่ที่มีจำกัดมากๆก็อาจจะเอาห้องนอนขึ้นไปไว้บนชั้นสอง อาจจะไม่ได้เป็นชั้นสองแบบเต็มๆนะครับ อาจจะเรียกว่าชั้นลอยก็ได้ แต่ละห้องอาจจะผนวกเข้าด้วยกันตามขนาดของพื้นที่ อย่างที่บอกไปนะครับว่าบางครั้งนะครับในห้องนั่งเล่นก็อาจจะเป็นทั้งห้องนั่งเล่นด้วยแล้วก็ห้องทำงานไปด้วยเลย ก็อาจจะเพิ่มโต๊ะทำงานเข้ามาอยู่ใกล้ๆ กันกับห้องนั่งเล่นไปด้วยนะครับ หรือว่าห้องนั่งเล่นก็อาจจะมีโซฟาที่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นที่นอนได้นะครับ ตรงนี้ก็เหมือนกับว่าเป็นได้ทั้งห้องนั่งเล่นแล้วก็เป็นทั้งห้องนอนได้ด้วยนะครับ สำหรับบางคนที่อาจจะมีญาติพี่น้องมาเที่ยวหาอยู่เป็นบางครั้งนะครับ อาจจะมีการมาพักมาค้างคืนกันบ้างก็อาจจะปรับตรงห้องนั่งเล่นตรงนี้นะครับ ปรับโซฟาให้เป็นที่นอนได้ก็กลายไปเป็นเพิ่มห้องนอนได้ด้วย แล้วก็มีห้องนอนของเจ้าของบ้านแยกออกมาอีกส่วนหนึ่งได้ด้วยนะครับ
       สำหรับ tiny house นะครับบางหลังก็อาจจะเพิ่มพื้นที่ในส่วนของระเบียงหน้าบ้านเข้าไป ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เขาก็ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าเช่นเดียวกันนะครับ โดยที่พื้นที่บริเวณระเบียงหน้าบ้านนี้นะครับก็อาจจะใช้สำหรับเป็นพื้นที่สำหรับนั่งนั่งเล่นนะครับเอาไว้สำหรับทำงานก็ได้หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ ขณะเดียวกันนะครับก็อาจจะเอาไว้สำหรับชื่นชมบรรยากาศ วิว ทิวทัศน์ ทัศนียภาพนอกบ้านได้ด้วยนะครับ ก็นับเป็นการใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดตาม concept ของ tiny house นะครับ
      ในเรื่องของสถานที่ตั้งของ tiny house นะครับก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกันนะครับ tiny house บางหลังก็อาจจะตั้งอยู่บนที่ดินนะครับ แล้วก็ตั้งอยู่แบบเหมือนเป็นบ้านถาวรไปเลยนะครับ ก็เหมือนกับบ้านหลังขนาดทั่วๆไป ที่ตั้งอยู่บนที่ดินนะครับ ส่วน tiny house บางหลังอาจจะขนาดเล็กมากๆ แล้วก็อาจจะไปสร้างอยู่บนรถพ่วงนะครับ ในภาษาอังกฤษจะเรียก tiny house แบบนี้ว่า tiny house on wheel, tiny house on wheel ซึ่งถ้าแปลตรงตัวนะครับ tiny house on wheel ก็หมายถึงบ้านหลังเล็กบนล้อหรือในภาษาไทยก็อาจจะเรียกว่าบ้านเล็กติดล้อ ทำไมถึงไปตั้งบนรถพ่วงนะครับตรงนี้ก็คือเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือว่าในการขนส่ง เจ้าของบ้านนะครับบางทีอาจจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ทำเลที่ตั้งของบ้านนะครับ อยู่ตรงนี้นานๆ อาจจะรู้สึกเบื่อ อาจจะอยากย้ายไปอยู่ที่อื่น อาจจะสามารถที่จะเลือกย้ายไปอยู่ตามที่ชนบทในป่าในเขานะครับตรงบริเวณที่มีสิ่งแวดล้อมที่สวยงามกว่าเดิมก็ได้นะครับ ตรงนี้ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งนะครับ
      สำหรับจุดเริ่มต้นของกระแสนิยม tiny house นะครับมีที่มาอย่างไร tiny house นะครับจริงๆแล้วก็ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ 20-30 ปีที่ผ่านมา โดยที่ผู้คนที่นิยมอยู่อาศัยอยู่ใน tiny house นะครับเขาก็มีแนวคิดหรืออุดมการณ์ที่หลากหลาย แต่ว่าหลักๆนะครับก็คือ แนวคิดในเรื่องของการลดขนาดพื้นที่ของที่อยู่อาศัยของเขา ซึ่งในภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า downsizing, downsizing ซึ่งคำนี้ก็มาจาก verb คำว่า downsize นะครับ down ก็แปลว่าลดลง size ก็แปลว่าขนาด downsizing ก็คือลดขนาดของพื้นที่ลงนะครับ บางคนเคยอยู่อาศัยในบ้านที่พื้นมีที่กว้างแล้วก็อาจจะรู้สึกว่ามันอาจจะกว้างเกินความจำเป็นก็ได้ เขาก็เลยอยากจจะย้ายไปอยู่ในบ้านที่มีขนาดเล็กลงเอาเฉพาะที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตเท่านั้นนะครับ อันนี้ก็คือเป็นแนวคิดหนึ่งนั่นก็คือ downsizing แนวคิดต่อมานอกจากเรื่องของการลดขนาดแล้วนะครับก็ยังเป็นแนวคิดในเรื่องของการลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมครับ ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า reducing environmental impact การที่เราอยู่อาศัยในบ้านหลังเล็กนะครับก็เป็นการลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมลง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการก่อสร้างนะครับ แล้วก็การลดวัสดุที่มาจากธรรมชาตินะครับก็ใช้น้อยกว่าบ้านที่ขนาดตามมาตรฐานโดยทั่วไป นอกจะนี้นะครับอีกแนวคิดสำคัญหนึ่งที่ทำให้กระแสของ tiny house ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ นะครับนั่นก็คือ แนวคิดในการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายกว่าเดิมแล้วก็ประหยัดกว่าเดิมนะครับ ซึ่งในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า promoting a simpler, more affordable way of living นะครับ คำว่า simpler ก็คือเรียบง่ายกว่าเดิม แล้วก็คำว่า more affordable ก็คือประหยัดกว่าเดิมหรือว่าซื้อบ้านในราคาที่ถูกกว่าเดิมแล้วก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในการดำเนินชีวิตด้วยนะครับ แนวคิดเหล่านี้นะครับก็ได้รับความนิยมมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผู้คนที่อยากจะอยู่อาศัยในบ้านที่แบบมีพื้นที่ไม่มากนะครับเขาก็เลือกที่จะอยู่ใน tiny house บางคนก็อาจจะเลือกบ้านแบบนี้เพราะว่าต้นทุนในการก่อสร้างหรือในการบำรุงรักษามาสูงมากนัก แนวคิดทั้งหลายอย่างเหล่านี้นะครับบางคนก็ผนวกเข้าด้วยกันนะครับกับแนวคิดที่ว่า เขาต้องการที่จะตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตออกไปครับหรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า declutter, declutter พอเราอยู่บ้านที่หลังเล็กใช่ไหมครับ เราก็เลยจำเป็นต้องเลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในชีวิตเท่านั้น หรือว่าอะไรที่มันมีคุณค่า อะไรที่มันมีความหมายในการดำเนินชีวิตประจำวันของเราแบบนี้นะครับในภาษาอังกฤษเรียกว่า focus on what truly matters most, focus on what truly matters most อะไรที่ไม่จำเป็นเราก็ไม่เอาเข้ามาในบ้านหรือเอาไว้แต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเรา เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตแบบนี้นะครับเอาสิ่งที่จำเป็นเข้ามา แนวคิดเหล่านี้นะครับก็ได้รับความนิยมมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกนะครับ เพราะว่าหลาย ๆ คนหันมาสนใจวิถีชีวิตแบบ minimalist หรือว่า minimalist life style แล้วก็การใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพหรือว่า cost-efficiency ขณะเดียวกันครับก็ส่งเสริมแนวคิดความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า environmental sustainability ก็คือการลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมขณะเดียวกันก็เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไปนาน ๆ นะครับ ให้ไปถึงชั่วลูกชั่วหลานแบบนี้นะครับ ทำให้สิ่งแวดล้อมก็ยังคงมีอยู่นะครับแล้วก็ลดพวก carbon footprint พวกของเสีย ขยะอะไรต่างๆในชีวิตประจำวันด้วยนะครับ 
       ปัจจุบันนี้นะครับ แนวคิดนี้ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกเลยแล้วก็ทำให้คนเลือกที่จะมาอยู่อาศัยใน tiny house กันมากขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลกนะครับรวมไปถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรนะครับ อังกฤษ สกอตแลนด์ ไอซ์แลนด์เหนือ ในออสเตรเลียในนิวซีแลนด์นะครับก็ผู้คนก็เลือกที่จะ จากเดิมนะครับอยู่บ้านที่หลังขนาดมาตรฐานเขาก็เลือกที่จะอยู่บ้านที่ขนาดเล็กลง หรือที่เรียกว่า tiny house นะครับ ด้วยความที่ tiny house ใช้ต้นทุนในการก่อสร้างน้อยกว่าบ้านปกตินะครับ ก็มีการออกแบบ รูปร่าง รูปทรง หรือว่าลักษณะที่มีความหลากหลายนะครับ บางบ้านก็อาจจะมีลักษณะเหมือนกับขนาดมาตรฐานโดยทั่วไปเพียงแต่ว่าลดขนาดลงนะครับ เล็กลง หรือว่าบางบ้านที่เป็นที่นิยมนะครับก็คือการเอาตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าเอามาดัดแปลงแล้วก็มาปรับเปลี่ยนแล้วก็มาตกแต่งและออกแบบให้เป็นบ้านที่เล็กกะทัดรัดแล้วก็สวยงาม บางบ้านนะครับอย่างที่คุณผู้ฟังทราบ ก็คือบ้านหลังเล็กมากๆเลยนะครับจนสามารถที่จะเอาไปสร้างอยู่บนรถพ่วงได้นะครับแล้วก็สามารถที่จะขนย้ายได้สะดวก เคลื่อนย้ายเปลี่ยนสถานที่บ้านได้สะดวกเช่นเดียวกัน ตรงนี้ก็เป็นความหลากหลายของ tiny house นะครับ มีทั้งแบบที่ตั้งอยู่บนที่ดินแล้วก็แบบที่ตั้งอยู่บนรถพ่วงหรือที่เราเรียกกันว่า tiny house on wheel นะครับตรงนี้
        สำหรับข้อดีของ tiny house นะครับก็มีอยู่มากมายเลยนะครับตามที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นนี้นะครับ อย่างแรกเลยนะครับ บ้านหลังเล็กก็คือทำให้บ้านมีราคาประหยัดหรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า affordability, affordability tiny house นะครับก็จะมีราคาประหยัดกว่าบ้านตามมาตรฐานโดยทั่วไป ราคาก่อสร้างก็ถูกกว่า ค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่า สิ่งอำนวยความสะดวก เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็น้อยกว่าก็เลยถูกกว่าบ้านทั่วๆไปด้วยเช่นเดียวกันนะครับ นอกจากนี้ครับข้อดีก็คือการสนับสนุนความยั่งยืนหรือที่เรียกว่า sustainability tiny house นะครับส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าบ้านตามมาตรฐานโดยทั่วไป เพราะว่ามีการใช้ทรัพยากรน้อยกว่านะครับในเรื่องของการก่อสร้าง แล้วก็ในเรื่องของการบำรุงรักษารวมไปถึงการใช้พลังงานในชีวิตประจำวันน้อยลงกว่าบ้านทั่วๆไปด้วยนะครับ นอกจากนี้นะครับ ข้อดีก็คือในเรื่องของความสามารถในการเคลื่อนย้าย tiny house หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า mobility เนื่องจาก tiny house นะครับบางหลังก็เล็กมากๆ สามารถที่จะสร้างอยู่บนรถพ่วงได้นะครับก็ทำให้สามารถที่จะเคลื่อนย้ายหรือว่าขนส่งเปลี่ยนสถานที่บ้านได้ตามความสะดวกตามความพึงพอใจของเจ้าของบ้านนะครับ บางครั้งเจ้าของบ้านอยากไปอยู่อาศัยในพื้นที่แปลกใหม่ อยากจะไปสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติในป่าเขาใกล้น้ำตกแบบนี้ก็สามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้นะครับ นอกจากนี้ครับ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือการลดสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตออกไปครับหรือที่เราเรียกกันว่า reducing clutter, reducing clutter ด้วยความที่ tiny houses นะครับมีพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดมากๆ เลยนะครับทำให้ผู้อยู่อาศัยนะครับจำเป็นต้องเลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในชีวิตเท่านั้น ขณะเดียวกันครับก็ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตออกไป ซึ่งแนวคิดนี้ก็สอดคล้องกับแนวคิดแล้วก็ life style แบบ minimalist นะครับ ทำให้ที่อยู่อาศัยนะครับแล้วก็การดำเนินชีวิตประจำวันมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วก็ลดความยุ่งเหยิงในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ด้วยครับ อีกข้อดีสำคัญอย่างหนึ่งเลยนะครับที่เห็นได้ชัดมากๆนั่นก็คือ อิสรภาพทางการเงิน นะครับหรือที่เรียกว่า financial freedom ด้วยความที่ tiny house นะครับใช้ต้นทุนในการก่อสร้างที่ถูกกว่าบ้านโดยทั่วๆไปนะครับ ทำให้ผู้อยู่อาศัยครับเขาก็มีอิสระภาพทางการเงินมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายหลักในชีวิตของคนคนหนึ่งออกไปนั่นก็คือเรื่องของบ้าน ลดค่าเช่า ลดค่ากู้เงินจำนองเพื่อซื้อบ้านอะไรต่างๆลดลง ก็ทำให้มีอิสรภาพในการเงินมากขึ้น พอมีอิสระภาพในการเงินมากขึ้นครับก็มีอิสระภาพในการดำเนินชีวิตมากขึ้น เขาสามารถที่จะเลือก ที่จะ focus ไปทำในสิ่งที่เขาชอบทำสิ่งที่เขาสนใจโดยที่ไม่ต้องกังวลกับภาระทางการเงินมากจนเกินไปนะครับ ได้รับเงินเดือนมีรายได้เข้ามาก็ไม่ต้องหมดไปกับเรื่องของที่อยู่อาศัยมากจนเกินไปแบบนี้นะครับ 
      สำหรับมุมมองนะครับ แนวคิดมุมมองของผู้อยู่อาศัยใน tiny house นะครับ คนที่เขาอยู่ tiny house เขาพูดถึง tiny house อย่างไรบ้างนะครับ จากบทสัมภาษณ์แล้วก็รายการ YouTube ต่างๆนะครับที่สมัภาษณ์เกี่ยวกับ tiny house แล้วก็บทความที่ไปสัมภาษณ์คนที่อยู่อาศัยใน tiny house มาระยะเวลาหนึ่งนะครับ ยกตัวอย่างครับเช่น Michael Rauch อายุ 25 ปี เขาอาศัยอยู่ใน tiny house ในไอร์แลนด์เหนือครับ เขาก็เห็นว่าข้อดีของการอาศัยอยู่ใน tiny house ลดภาระการงานในด้านที่อยูอาศัย ลดค่าใช้จ่ายลง ลดค่ากู้จำนองลง ซึ่งถือว่าเป็นภาระทางการเงินใหญ่สำหรับตัวเขาเองแล้วก็แฟนสาวนะครับในวัยอายุ 25 ปีนี้ เขาก็ลดภาระทางการเงินไปได้มากเลยตรงนี้ก็สอดคล้องกับข้อดีในด้านอิสระภาพทางการเงินนะครับ สำหรับอีกครอบครัวหนึ่งนะครับ Taj กับ Mitch นะครับ ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยากันนะครับ เขาก็อยู่อาศัยใน tiny house พร้อมกับลูกเล็กๆในวัย 1 ขวบ กับ 3 ขวบ ของเราสองคนนะครับ ตรงนี้ข้อดีก็คือการได้อาศัยร่วมกันในครอบครัว เขาได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ขณะเดียวกันเขาก็เห็นการเจริญเติบโตตามวัยของลูกๆของเขานะครับนอกจากนี้ก็ยังเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ไฟฟ้าก็ใช้ได้ทั้งบ้านเลย ขณะเดียวกันก็ปลูกพืชผักกินเองด้วยนะครับ ลดต้นทุนในการดำเนินชีวิตได้ด้วย ตรงนี้ก็คือค่าใช้จ่ายเพิ่มอิสระภาพทางการเงินได้ด้วยนะครับ อีกตัวอย่างหนึ่งนะครับของบุคคลที่อยู่ใน tiny house นะครับ คนนี้ชื่อว่า Jess เขาเป็นหญิงสาวแล้วก็อาศัยอยู่ใน tiny house คนเดียวในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียนะครับ โดยเธอได้เลือกบ้านสไตล์แบบตู้คอนเทนเนอร์ครับ แล้วก็สร้างบ้านอยู่บนรถพ่วงนะครับ เอาไปตั้งอยู่ในป่าเขานะครับ เธออยากจะใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้วก็ชอบแนวคิดแบบการใช้ชีวิตแบบวิถีแบบยั่งยืนหรือว่า sustainable living นะครับ โดยใช้แผงโซลาร์เซลล์นะครับในการใช้ไฟฟ้าหรือกระแสสำหรับทั้งบ้านเลย ขณะเดียวกันนะครับก็ใช้น้ำฝนกักเก็บเอาไว้ในแ ทงก์น้ำเพื่อใช่ในชีวิตประจำวันด้วย แล้วก็เนื่องจากว่าบ้านตั้งอยู่บน tiny house on wheel นะครับ ตั้งอยู่บนรถพ่วงก็สามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้สะดวกนะครับ บางทีอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปอยู่ที่อื่นบ้างก็สามารถที่จะทำได้อย่างสะดวกเช่นเดียวกันนะครับ
     สำหรับเรื่องการอยู่อาศัยใน tiny house นะครับก็นับว่าเป็นทางเลือกในปัจจุบันนะครับที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็สอดคล้องกับ life style ของเจ้าของบ้านกับของผู้อยู่อาศัยไปด้วยนะครับ ขณะเดียวกันก็สนับสนุนวิถีชีวิตแบบยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปด้วย สอดคล้องกับแนวคิด minimalism น้อยแต่มาก แล้วก็ลดค่าครองชีพเพิ่มอิสระภาพทางการเงินในชีวิตมากขึ้นนะครับ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันนะครับ หากคุณผู้ฟังสนใจนะครับ tiny house นะครับ อยากจะได้ข้อดีต่างๆเหล่านี้นะครับอาจจะลองไปศึกษาเพิ่มเติมได้นะครับหรือว่าไปดูตัวอย่างของ tiny house เพิ่มเติมกันได้นะครับ สำหรับวันนี้ครับ รายการโลกกว้างกับภาษาอังกฤษก็ได้หมดเวลาลงแล้วนะครับ ผม มานะ เติมใจ ขอลาคุณผู้ฟังทุกท่านไปก่อนครับ พบกันใหม่ครั้งหน้าครับ สวัสดีครับ
——————————  
ที่มาของข้อมูล 
• บทความเรื่อง Tiny Homes Date Back to the Previous Century https://www.monumentalwd.com/when-did-the-tiny-house-movement-start-and-why-is-it-still-going-strong-2/
• บทความเรื่อง Northern Ireland's tiny house movement – a small move to the future?
https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-48888616 
• รายการยูทูบเรื่อง A Dream Family Tiny House Design https://www.youtube.com/watch?v=vvmUkWWHpBo