เร่งบังคับใช้กฎหมาย “ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” ป้องกัน ซื้อ-ขาย บุหรี่ไฟฟ้า บนสื่อออนไลน์
ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวถึง บทความ “Protecting Youth From Online E-Cigarette Marketing: Findings From a New Study in India, Indonesia and Mexico” ซึ่งเป็นการศึกษาการทำการตลาดบุหรี่ไฟฟ้าบนสื่อออนไลน์ ระหว่าง 15 ธันวาคม ค.ศ. 2021 – 16 มีนาคม ค.ศ. 2022 ใน 3 ประเทศ คือ 1. อินเดีย ซึ่งห้ามนำเข้า ห้ามขาย และห้ามโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ ค.ศ. 2019 2. อินโดนีเซีย ซึ่งไม่มีกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และ 3. เม็กซิโก ซึ่งมีกฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียวก่อน ค.ศ. 2022 จนกระทั่ง พฤษภาคม ค.ศ.2022 ห้ามสมบูรณ์แบบ ทั้งห้ามนำเข้า ห้ามขาย และห้ามโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งพบว่า
-
ประเทศที่มีกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า จะสามารถควบคุมการซื้อขายบนตลาดออนไลน์ได้ดีกว่าประเทศที่ไม่มีกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า โดยปริมาณของบุหรี่ไฟฟ้าในตลาดออนไลน์ในอินโดนีเซีย, เม็กซิโก และอินเดีย เท่ากับ 70, 25 และ 10% ตามลำดับ
-
แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะถูกอ้างว่าใช้เพื่อเลิกบุหรี่ธรรมดา ห้ามขายให้เยาวชน แต่พบว่าตลาดบุหรี่ไฟฟ้าบนสื่อออนไลน์กลับทำการตลาดที่ทันสมัย มีเสน่ห์ เท่ห์ โดยเน้นที่กลิ่น สี และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ฉูดฉาด ทันสมัย และแฟชั่นเฉพาะกลุ่ม เช่น การ์ตูน ตามราศี ผู้หญิง หุ่นยนตร์ ซุปเปอร์ฮีโร่ ซึ่งพบการตลาดล่าเหยื่อมุ่งเป้าเยาวชนถึง 86, 73 และ 53% ในอินเดีย, เม็กซิโก และอินโดนีเซีย ตามลำดับ
-
ในข้อมูลบนสื่อโซเชียลมีเดีย มีเพียงจำนวนน้อยที่ประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า คือพบเพียง 8% ในเม็กซิโก 0.3% ในอินโดนีเซีย และไม่พบเลยในอินเดีย
ดังนั้น รัฐบาลไทย นอกจากต้อง “คงมาตราการห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งเป็นมาตรการที่ดีที่สุดแล้ว จะต้องเร่งรัด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบังคับใช้กฎหมายจับกุมผู้กระทำความผิด ที่ลักลอบนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อออนไลน์ เพื่อปกป้องเยาวชนจากการตลาดล่าเหยื่อนี้ พร้อมทั้งเร่งให้ความรู้แก่เยาวชนบนสื่อออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น